ประสบการณ์ปาฏิหารย์และศรัทธา ณ แดนพุทธภูมิ

เรื่องที่จะเล่านี้เขียนขึ้นจากประสบการณ์ของข้าพเจ้า ที่เกิดขึ้น ในแดนพุทธภุมิ ประเทศอินเดีย เรื่องของปาฏิหารย์เป็นเรื่องปัจจัตตัง ยากที่คนทั่วไปจะเชื่อ แต่ข้าพเจ้าก็หวังว่าเรื่องที่เขียนนี้ จะมีประโยชน์ต่อไปในภายหน้า สำหรับผู้ที่ได้อ่าน ถ้าเรื่องที่เขียนทำประโยชน์ให้กับผู้อ่าน กุศลผลบุญทั้งหมดขออุทิศให้แก่พระพุทธเจ้าทั้งหลาย พระธรรม และพระอริยเจ้าทั้งมวล ทั่วทุกโลกธาตุ รวมสรรพสัตว์ทั้งหลายด้วยเทอญ จุดเริ่มต้นแห่งปาฏิหารย์และศรัทธาที่ทำให้ข้าพเจ้าต้องเดินทางมาสู่แดนพุทธภูมิ คงเนื่องมาจากบุญและกรรมที่ผ่านมาของข้าพเจ้า เมื่อปลายปี 2545 เป็นปีที่ในหลวงเจริญพระชนมายุ 75พรรษา ข้าพเจ้าได้มีโอกาสไปสักการะพระธาตุเขี้ยวแก้วของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่อัญเชิญมาจากประเทศจีน เพื่อร่วมงานฉลองของในหลวง นับว่าเป็นโชคดีของชาวไทยทั้งมวล เพราะอาจเป็นแค่ครั้งเดียวที่พระธาตุเขี้ยวแก้วได้เดินทางมาสู่ประเทศไทย ครั้งแรกที่ข้าพเจ้าได้พบกับพระธาตุเขี้ยวแก้ว เป็นภาพที่ไม่เคยลืมเลย คือข้าพเจ้าเห็นภาพนิมิตพระพุทธเจ้า พร้อมด้วยพระอรหันต์สาวกนั่งอยู่หลายองค์ ข้าพเจ้าเห็นภาพนั้นในขณะที่ลืมตาอยู่ และสัมผัสได้ถึงพลังงานมหาศาลยิ่งใหญ่ปกคลุมไปทั่วบริเวณ เป็นพลังงานที่ให้อันอบอุ่นและทำให้จิตใจเย็นสบายอย่างบอกไม่ถูก วันนั้นข้าพเจ้าได้ตั้งความปรารถนาต้องเดินทางไปสัมผัสกับแดนพุทธภูมิ ประเทศอินเดีย ให้ได้อย่างน้อยสักครั้งหนึ่งในชีวิต ความปรารถนาได้บรรลุผลเป็นจริงในปี 2550 ข้าพเจ้ากับภรรยา พร้อมด้วยเพื่อนสนิทอีก 2 คน ได้เดินทางไปยังแดนพุทธภูมิ กับบริษัทมายด์ทัวร์ที่มีคนแนะนำ นอกจากแดนพุทธภูมิแล้ว ในรายการยังไปเที่ยวยังสถานที่อื่นเช่น ถ้ำอชันต้า ถ้ำเอลโลร่า และทัชมาฮาล ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังของอินเดีย การเดินทางมาแดนพุทธภูมิ ชาวพุทธควรไปสักการะสถานที่สำคัญทั้ง 4 แห่งให้ครบ ได้แก่ 1. สถานที่ประสูติ ณ สวนลุมพินีวัน หรือ ลุมมันเด ปัจจุบันอยู่ที่เนปาล 2. สถานที่ตรัสรู้ เมืองพุทธคยา หรือ โบดคยา (ตามเสียงคนอินเดีย) 3. สถานที่แสดงธรรมจักรกัปปวัตนสูตร ที่เมืองพาราณสี หรือ บาราณสี (ตามเสียงอินเดีย) 4. สถานที่ปรินิพพาน เมือง กุสินารา พระพุทธเจ้าได้ตรัสบอกพระอานนท์ ในมหาปรินิพพานสูตร ว่าสังเวชนียสถานทั้ง 4 แห่ง เป็นสิ่งที่ชาวพุทธทั้งหลายควรมาทัศนา เมื่อบุคคลนั้นมาด้วยความศรัทธาและเลื่อมใส เมื่อร่างกายแตกดับลงจะได้ไปสู่สุคติสวรรค์เป็นอย่างต่ำ ดังนั้นคนที่มาเยือนแดนพุทธภูมิ ควรประกอบด้วย 4 ปัจจัยดังนี้ 1. ศรัทธาและวิริยะ บางคนมีศรัทธามาถึงสถานที่แล้ว แต่ขาดวิริยะ พอลำบากหน่อยก็อยากไปพักผ่อน ศรัทธาก็สำคัญมากเป็นจุดเริ่มต้น ถ้าไม่มีก็จะได้เห็นแต่เพียงสถานที่เก่าๆ ไม่สามารถสัมผัสได้ถึงธรรมที่พระพุทธเจ้าอยากให้พวกเราไปทัศนา 2. กำลังทรัพย์ ค่าใช้จ่ายโดยเฉลี่ย 30,000 บาท สำหรับทัวร์แบบประหยัด 3. เวลา ควรเลือกเดินทางอย่างน้อย 8 วัน ที่เหมาะสมไม่เหนื่อยมากประมาณ 12 วัน 4. สุขภาพกายและใจ ทำใจให้เป็นสุข รักษาสุขภาพให้ดี ตลอดเวลาของการเดินทาง สัมผัสปาฏิหารย์ครั้งแรก ในการเดินทางครั้งแรก ปี 2550 ข้าพเจ้า ภรรยาและเพื่อน ทั้ง 4 คนได้สวดมนต์ที่ใต้ต้นพระศรีมหาโพธิ์ สถานที่ตรัสรู้ ในเวลากลางคืน คืนนั้นอากาศหนาว เงียบสงบดีมาก ข้าพเจ้าเคยได้ยินว่า ถ้าอยากได้ใบโพธิ์ตกจากต้น ให้ลองอธิษฐานจิต หลังจากนั่งสมาธิอยู่สักพัก ข้าพเจ้าก็ลืมตาเงยหน้ามองไปที่ต้นโพธิ์แล้วอธิษฐานขอใบโพธิ์ตกลงในจุดข้าพเจ้านั่งอยู่ แล้วข้าพเจ้าก็หลับตาทำสมาธิต่อ อีกไม่นานนักก็ได้ยินเสียงวัตถุตกลงมากระทบพื้นดังมาก รู้สึกได้ว่าตกลงมาอยู่ข้างๆ เมื่อลืมตาดูก็พบใบโพธิ์สีเขียวสด เป็นปาฏิหารย์แรกที่ได้พบในการเดินทาง สัมผัสปาฏิหารย์ครั้งที่สอง ในการเดินทางครั้งแรก ปี2550 ข้าพเจ้าได้เข้าไปสักการะพระพุทธเมตตา ที่อยู่ภายในมหาวิหารพุทธคยา เมื่อได้เห็นองค์ท่านครั้งแรกมีความศรัทธาอย่างยิ่ง ใบหน้าของท่านยิ้มแย้มเหมือนมีชีวิต ข้าพเจ้ากราบอธิษฐานขอถ่ายรูปท่านเพื่อเป็นที่ระลึกและนำมาบูชา ถ่ายไว้หลายสิบภาพ แต่มีอยู่ภาพเดียวที่สวยสมบูรณ์ที่สุด และสร้างความอัศจรรย์ให้แก่ผู้ที่ได้เห็น นั่นคือภาพที่ปรากฏดวงแสงสีเหลือง ลอยอยู่บริเวณพระอุระ(จุดศูนย์กลางกาย) ดวงลอยอยู่เหนือบาตรใบเล็ก หลังจากข้าพเจ้าได้เห็นภาพนี้เมื่อกลับมาถึงที่พัก ข้าพเจ้าเกิดความปิติและศรัทธามากขึ้น และเอาภาพที่อยู่ในกล้องมาให้สมาชิกในทัวร์ชมตอนอยู่ที่อินเดีย หลายคนก็เกิดศรัทธาเพิ่มขึ้นและขอรูปไปบูชา หลังจากกลับมาประเทศไทย ภาพนี้ได้นำมาแจกจ่ายทั่วไปตามสมควร และตั้งใจทำแจกไปเรื่อยๆ มีหลายคนมาเล่าให้ข้าพเจ้าฟังเกี่ยวกับความศักดิ์สิทธิ์ของภาพนี้ในภายหลัง สัมผัสปาฏิหารย์ครั้งสำคัญ ในการเดินทางครั้งที่สาม ปี2552 การเดินทางครั้งที่สาม จะแตกต่างกับ 2 ครั้งที่ผ่านมา เป็นการมาทัวร์แบบถือศีล 8 และนอนวัดกันทุกคน ข้าพเจ้าและเพื่อนสนิทประมาณ 10 คนและคณะของแม่ชีดาวฟ้า รวมกันประมาณ 43 คน ก่อนเดินทางมาครั้งนี้ ข้าพเจ้าตั้งใจเน้นเรื่องการปฏิบัติธรรมให้มากกว่าที่ผ่านมา ข้าพเจ้าพยายามนั่งสวดมนต์ภาวนาทุกคืน ยกเว้นมีปัญหาเรื่องสุขภาพ ก่อนมาตั้งใจว่าจะสวดมนต์พระปริตร 7 ตำนานและบทสวดสำคัญต่างๆโดยเฉพาะอนันตลักขณสูตร ให้ได้โดยไม่เปิดหนังสือ ซึ่งข้าพเจ้าก็ทำได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ ปีนี้ข้าพเจ้าได้สัมผัสเรื่องปาฏิหารย์มากมาย แต่ขอเขียนเฉพาะตอนสำคัญที่สุดคือปาฏิหารย์เกั่ยวกับพระธาตุเสด็จ ในขณะเดินทางสักการะสถานที่สำคัญในแดนพุทธภูมิ ภรรยาของข้าพเจ้า ได้เก็บเอาวัตถุคล้ายหินสีขาวลักษณะยาวรี เก็บได้ที่สถานที่ประสูติสวนลุมพินีวัน ในเวลาต่อมาภรรยาก็ได้เจอวัตถุคล้ายหินออกสีชมพู บริเวณที่เผาสรีระของพระพุทธเจ้าคือมงกุฏพันธเจดีย์ เมืองกุสินารา ภรรยาได้นำเอาหินที่พบมาให้พระครูและแม่ชีหลายองค์ที่เดินทางมาในหมู่คณะชม ซึ่งก็บอกว่าเป็นพระธาตุ ข้าพเจ้าจึงลองอธิษฐานจิตขอพระธาตุบ้าง เมื่อได้เดินทางไปถึงสถานที่ปฐมเทศนา เมืองพาราณาสี ข้าพเจ้าได้พบพระธาตุสีแดง 2 เม็ดลักษณะคล้ายพลอยแดง ที่บริเวณคันธกุฏี และเมื่อหมู่คณะไปนั่งสวดมนต์บริเวณธัมเมกขสถูป ข้าพเจ้าได้สัมผ้สกับพลังงานมหาศาล ทันใดน้ำตาก็ไหลออกมาจากดวงตาทั้งสอง ขณะที่คนอื่นๆสวดมนต์ แต่ข้าพเจ้าสวดไม่ได้ เหมือนตัวเอง ไร้ตัวตนร่างกายเกิดสภาวะว่างเปล่าขึ้นแบบฉับพลัน เหลือแต่จิตเท่านั้นทันใด จิตได้รู้สัมผัสกับคำภาวนา 4 ตัวคือ ‘ทุ สะ นิ มะ’ จิตในช่วงนั้นสว่างและสงบสุขอย่างมากมาย แต่จิตก็สอนตัวเองให้ปล่อยวางทุกอย่างทั้งสุขและทุกข์ที่เกิดขึ้นในขณะนั้นให้หมด และให้ตั้งใจปฏิบัติมากขึ้นเพื่อให้สิ้นภพชาติ เมื่อเดินทางแวะกลับมาที่พุทธคยาอีกครั้งก่อนเดินทางกลับกรุงเทพ ข้าพเจ้าได้อธิษฐานจิตขอพระธาตุจากองค์พระพุทธเมตตา เพราะได้มา 3 สถานที่แล้ว ยังขาดพระธาตุของสถานที่ตรัสรู้ เนื่องจากเป็นวันเกือบสุดท้ายและไม่ได้อยู่ในรายการ ดังนั้นเวลาที่อยู่ในสถานที่นี้จึงน้อยมาก เมื่อกลับมาถึงประเทศไทย ข้าพเจ้าก็ได้อธิษฐานต่อรูปพระพุทธเมตตาที่บ้าน ในใจว่า‘เมื่อท่านให้พระธาตุทั้ง 3 แห่งแก่ข้าพเจ้าและครอบครัวแล้ว ขอได้โปรดมอบพระธาตุสถานที่ตรัสรู้ให้ด้วยเถิด’ วันทำงานแรก ข้าพเจ้าก็ได้มองรูปพระพุทธเมตตา ในห้องทำงานแล้วอธิษฐานเรื่องพระธาตุอีกครั้ง ในวันนั้นก่อนที่จะกลับบ้าน ข้าพเจ้าได้ยินเสียงวัตถุตกลงมาบนโต๊ะทำงาน เมื่อหาดูสักพักปรากฏว่าเจอวัตถุคล้ายหินออกขาวเหลือง ลักษณะกลมสวยงามมาก และมีประกายเมื่อแสงกระทบ ทำให้ความศรัทธาของข้าพเจ้าไม่มีวิจิกิจฉาต่อพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ อีกต่อไปแล้ว โดยเฉพาะปาฏิหารย์ที่เกิดขึ้น ข้าพเจ้าเชื่อว่าทุกคนสามารถสัมผัสปาฏิหารย์จากพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ได้ทุกคน ขอให้มีศรัทธาที่ตั้งมั่น

You cannot copy content of this page